ท้อง 2 เดือน อยากยุติการตั้งครรภ์ กินยาขับจะออกไหม

ท้อง 2 เดือน อยากยุติการตั้งครรภ์ กินยาขับจะออกไหม?

เมื่อใดก็ตามที่เกิดปัญหาท้องไม่พร้อม และขึ้นต้นด้วยหัวข้อเกี่ยวกับการเอาเด็กในครรภ์ออก… ดูเหมือนเป็นสิ่งที่ผู้หญิงยากจะทำใจ เต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายที่ตีกันอยู่ข้างใน ส่วนใหญ่ถ้าอายุครรภ์ 2 เดือน มักจะคาดคิดกันไปว่าจะเลือกกินยาขับออกแทนการเข้าคลินิกหรือแม้กระทั่งปรึกษาแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อหาทางแก้

เอาจริง ๆ แล้วลองมาพิจารณากันว่าเมื่อพบว่าท้อง 2 เดือน กินยาขับออกไหม หรือต้องใช้ทางเลือกอื่นที่ดีกว่า เรามีคำตอบให้คุณได้ลองไตร่ตรองอยู่ตรงนี้ ก่อนจะตัดสินใจลงมือทำ แล้วย้อนกลับมาแก้ไขไม่ได้ ตอนนั้นสิ่งที่จะตามมาอาจจะเป็นความรู้สึกผิดที่จะฝังอยู่ในใจคุณแม่ไปตลอดชีวิตเลยก็ได้ค่ะ

การยุติการตั้งครรภ์แบบใช้ยาขับในกรณีใดบ้างที่จำเป็น?

ท้องไม่พร้อมในวัยรุ่นปัจจุบันพบได้มากจนน่าตกใจ ซึ่งในกลุ่มที่จำเป็นต้องได้รับการยุติการตั้งครรภ์มักจะเป็นกลุ่มที่มีปัญหาด้านสุขภาพจิต, การถูกข่มขื่น, ปัญหาสุขภาพของแม่, ทารกในครรภ์มีความผิดปกติ เช่น พิการ เป็นต้น บางรายมีปัญหาการตั้งครรภ์ที่รุนแรง เสี่ยงเสียชีวิตทั้งแม่และเด็ก ดังนั้นเพื่อรักษาชีวิตของแม่ไว้ แพทย์จะแนะนำทางเลือกให้เอาเด็กออก โดยเฉพาะในช่วง 2 เดือนแรกที่ยังเป็นตัวอ่อน การใช้ยาขับออกจะทำได้ง่ายกว่า ย้ำว่าการใช้ยาอย่างถูกต้อง เหมาะสำหรับในกลุ่มที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าหากมาจากปัญหาส่วนตัวหรือปัญหาครอบครัว การเอาเด็กออกไม่ใช่ทางออกที่ดีอย่างแน่นอน

ยาขับกับการยุติการตั้งครรภ์ ช่วงไหนถือว่ายังปลอดภัย?

ก่อนจะตัดสินใจเลือกขับเด็กออกด้วยการกินยา ให้พิจารณาอย่างรอบคอบก่อน ซึ่งถ้าในกลุ่มที่จำเป็นต้องยุติการตั้งครรภ์แบบไม่มีทางเลือกอื่น ควรทำในช่วง 12 สัปดาห์แรก ซึ่งในปัจจุบันการตั้งครรภ์ที่มากกว่านี้ แต่ไม่เกิน 24 สัปดาห์ ก็ยังถือว่าปลอดภัย แบ่งออกเป็นทั้งการใช้ยา หรือการดูดแบบสุญญากาศ โดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญจากคลินิกและโรงพยาบาลที่มีมาตรฐาน

สำหรับคนที่มีอายุครรภ์น้อยมาก ๆ อาจเลือกใช้การกินยาขับได้ ทว่าต้องทำความเข้าใจในเรื่องความปลอดภัยด้วย หากเป็นการซื้อยามากินเอง เสี่ยงที่จะเกิดอันตราย แถมยาในกลุ่มนี้ยังจัดเป็นยาอันตรายควบคุมพิเศษ “ห้ามจำหน่าย” ทั่วไป ถ้าจะมีก็เฉพาะในโรงพยาบาลเท่านั้น หากสาว ๆ คนไหนริที่จะเลือกทางออกนี้ด้วยตัวเอง ก็จะต้องยอมรับกับผลที่จะตามมา เพราะไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ยาที่ได้มาอาจไม่มีคุณภาพ ช่วงอายุครรภ์ที่มากน้อยต่างกัน ก็ทำให้ขั้นตอนแตกต่างกันออกไปด้วย

ใช่ว่าการกินยาขับง่าย ๆ แล้วทุกอย่างจะจบ เพราะก่อนจะยุติการตั้งครรภ์ จะต้องมีการพบแพทย์ ปรึกษาหารือกันให้ชัวร์ว่าจะเอาเด็กออกแน่นอนด้วยเหตุผลที่ได้รับการยินยอมจากผู้หญิงด้วย แพทย์จะดูแลอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่การตรวจอัลตร้าซาวน์ก่อนจะเลือกใช้ยาขับ หรือใช้ทั้งยาขับ ยาเหน็บ ร่วมกับยาแบบอมใต้ลิ้น ตามแต่จะเหมาะสมให้การยุติการตั้งครรภ์สำเร็จได้อย่างปลอดภัยมากที่สุด

ปัญหาท้องไม่พร้อม หรือท้องแล้วไม่พร้อมคลอดกันแน่?

ต้องขอบอกคร่าว ๆ ก่อนว่าปัญหาท้องไม่พร้อมที่ไม่ได้มาจากสาเหตุอาการป่วย, เด็กในท้องมีปัญหา หรือภาวะเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้กับแม่หรือเด็กในครรภ์ แต่เป็นการยุติการตั้งครรภ์อาจเพราะพลาดพลั้ง ป้องกันตัวเองผิดวิธี หรือความประมาทอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ได้วางแผนเป้าหมายว่าจะมีเจ้าตัวเล็กในช่วงเวลานี้ ตั้งครรภ์แบบไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ไม่อยากเอาเด็กไว้ ให้เหตุผลว่า “ไม่พร้อมที่จะเลี้ยงดู” หากเด็กคลอดออกมา แล้วไม่รู้ว่าจะดูแลยังไง นึกไปถึงปัญหาอีกมายมายในอนาคตที่จะตามมาเอาไว้ก่อน อันนี้เรียกได้ว่าเป็นความรู้สึกถึงทางตัน อยากเอาเด็กออกเพราะความ “ไม่พร้อม” ที่คิดไปก่อนล่วงหน้า ทั้งที่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ และเชื่อว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ที่ตกอยู่ในสถานการณ์นี้ ก็ต้องมีความหวาดหวั่นอยู่ข้างใน ยิ่งคิดนาน เด็กในครรภ์ยิ่งโตวันโตคืน ทางเลือกการรีบทำแท้งให้เร็วที่สุด เลยกลายเป็นทางออกเดียว ณ ชั่วเวลาดังกล่าว

ส่วนในบริบทของการคนที่ท้องแต่มีปัญหาด้านสุขภาพ เด็กในครรภ์ผิดปกติ มีความเสี่ยงต่อการแท้ง หรือโรคอื่น ๆ ที่ทำให้เสี่ยงที่แม่และลูกจะเสียชีวิต แบบนี้เรียกว่า พร้อมท้อง…แต่ไม่พร้อมคลอด การหาทางเอาเด็กออก จะเป็นไปตามดุลยพินิจของแพทย์ ไม่ใช่ใช้ความรู้สึกของตัวเองตัดสินใจขับเอาเด็กออก เป็นคนละกรณีกัน ดังนั้น ตั้งสติก่อนว่าตัวเองอยู่ในกลุ่มไหน จะได้หาทางปรึกษาคนใกล้ชิด หรือแพทย์ เชื่อว่าสาว ๆ ที่ท้องไม่พร้อม จะต้องเจอทางออกที่ดีกว่านี้อย่างแน่นอน

ท้องไม่พร้อมไม่ใช่เรื่องใหญ่ แค่เข้าใจและวางแผนชีวิต

เริ่มต้นที่การตั้งสติและยอมรับว่าตัวเองท้อง แม้จะเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิต แต่ทุกคนจะสามารถผ่านมันไปได้ด้วยทางออกดี ๆ ที่มีให้เลือกมากมาย แม้การทำแท้งจะเป็นหนึ่งในตัวเลือก แต่มันอาจจะกลายเป็นความรู้สึกแย่ที่ติดตัวไปตลอด ดังนั้นทางออกที่อยากแนะนำคือการหาคนที่เข้าใจ ถ้าไม่ใช่คนในบ้าน หรือฝ่ายชาย ให้ลองปรึกษาคลินิกฝากครรภ์ที่ได้รับมาตรฐาน ซึ่งจะมีการแยกดูแลพิเศษสำหรับคนท้องไม่พร้อม มีหน่วยงานช่วยเหลือในหลาย ๆ ด้าน ช่วยเปลี่ยนความคิดว่าให้มั่นใจว่าสามารถที่จะเป็นแม่ที่ดีได้ คนท้องก็สามารถกลับมาเรียนหนังสือได้ กลับมามีชีวิตปกติได้ ไม่ได้หมายความว่าทั้งชีวิตที่เหลือจะล่มสลายเสียเมื่อไหร่ แถมเด็กที่คลอดออกมาจะกลายเป็นของขวัญสุดพิเศษ จนแทบจะขอบคุณวันที่เปลี่ยนความคิดตัวเองให้เก็บเด็กคนนี้เอาไว้

อย่างไรก็ตามไม่ใช่เรื่องผิดสำหรับผู้หญิงที่หวาดกลัวความไม่พร้อม แต่รู้หรือไม่ว่าการขับเอาเด็กออกในช่วงอายุครรภ์ไม่ถึง 12 สัปดาห์ อาจทำให้คุณต้องเผชิญกับอันตรายหากทำแบบผิดวิธี และความสูญเสียนี้จะไม่สามารถย้อนกลับมาแก้ไขได้ ลองยอมรับว่าเด็กในท้องต้องการคุณ เขาคือลูกที่น่ารักของคุณในอนาคต อุปสรรคที่คิดว่าหนักหนา จริง ๆ แล้วอาจเบาบาง และผ่านมันไปได้ง่ายกว่าที่หวาดกลัวมาตั้งแต่แรกก็เป็นได้ค่ะ